ทรู คอร์ปอเรชั่น เปิดตัวแคมเปญ “ทรูทั่วไทย” ทั่วไทย ทั่วถึง ทุกคน ชวนพบพลังสัญญาณทรู 5G ทั่วเชียงใหม่

• เดินหน้าเติมแฮงเชียงใหม่ Top 3 Digital Nomad ของไทย
• ส่งมอบประสบการณ์เหนือระดับให้กับนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติลูกค้าทรูและดีแทค พร้อมรับเทศกาลปี๋ใหม่เมืองและทุกจุดท่องเที่ยวอันซีนไม่อันสัญญาณ
เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2567 ทรู คอร์ปอเรชั่น ร่วมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย ชูแคมเปญ “ทรูทั่วไทย” ทั่วไทย ทั่วถึง ทุกคน : เช็คสัญญาณถึงที่ 4 ภาคทั่วไทย เช็คอินความสุขให้คนไทย เช็คสปีดเน็ตไม่สะดุด ชัวร์ทุกพื้นที่ ร่วมสร้างประสบการณ์ระดับเวิลด์คลาสเพื่อลูกค้าทั้งทรูและดีแทค นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ ชูจุดเด่นเน็ตเวิร์คที่ดีที่สุด รองรับเทศกาลปี๋ใหม่เมือง และทุกจุดท่องเที่ยวอันซีนต้องไม่อันสัญญาณ พร้อมคัดสรรสินค้าบริการ ตลอดจนสิทธิพิเศษ ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์นักท่องเที่ยวยุคดิจิทัลอย่างครบครัน
นายมนัสส์ มานะวุฒิเวช ประธานคณะผู้บริหาร บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “ทรู คอร์ปอเรชั่น ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นำพลังการสื่อสารและเทคโนโลยีดิจิทัล ร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศไทย พร้อมเป็นอีกหนึ่งกลไกหรือ Key Driver ที่จะสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวอันเป็นภาคส่วนสำคัญของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ที่โดดเด่นด้าน Soft Power วัฒนธรรมอาหารล้านนา หลากหลายแลนด์มาร์คขวัญใจนักท่องเที่ยวทั่วโลก ซึ่งนอกเหนือจากด้าน Connectivity ความเร็ว แรงของทรู 5G และความครอบคลุมของ คลื่นสัญญาณทุกพื้นที่ทั่วไทย ที่เชื่อมั่นว่าจะทำให้นักท่องเที่ยวได้ใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพและแชร์ความประทับใจในการมาแอ่วเหนือแล้ว ทรู คอร์ปอเรชั่นยังจะนำนวัตกรรมเทคโนโลยีดิจิทัล ร่วมเสริมขีดความสามารถสนับสนุนคนในชุมชนท้องถิ่น ภาคธุรกิจ ผู้ประกอบการขนาดเล็ก ขนาดกลางขนาดใหญ่ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยวให้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น เพิ่มโอกาสในการดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้ประทับใจทุกครั้งที่มาเยือนประเทศไทยอีกด้วย”
นายชารัด เมห์โรทรา รองประธานคณะผู้บริหาร บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “ปัจจุบันแนวโน้มการท่องเที่ยวไทยมีสัญญาณบวกที่ชัดเจน ทั้งนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติที่เดินทางท่องเที่ยวไทยมากขึ้น ซึ่งเราสังเกตได้จากปริมาณการใช้งานดาต้าโมบายล์ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทั่วประเทศ 15.59% ภาคเหนือ 13.20 % และจังหวัดเชียงใหม่โตกว่า 15.25 % โดยเฉพาะในจุดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งส่วนหนึ่งมากจากเทรนด์การท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ของโลก คือกลุ่ม “ Digital Nomad” ที่เดินทางท่องเที่ยวและทำงานไปด้วย ไม่ยึดติดกับที่ และใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมาเป็นตัวกลางในการทำงาน ให้สามารถทำงานได้จากทั่วทุกมุมโลก
โดยจากผลสำรวจของ ABrotherAbroad.com พบว่า 5 ปัจจัยหลักในการเลือกจุดหมายปลายทางของกลุ่ม Digital Nomad คือ
  1) ค่าครองชีพต่ำและอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (56%)
  2) ความปลอดภัย (15%)
  3) แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ (11%)
  4) วีซ่าที่เหมาะสม (9%)
  5) ร้านกาแฟ/Co-working Space (3%)
โดยเรื่องค่าครองชีพและคุณภาพสัญญาณอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงเป็นปัจจัยที่สำคัญมากที่สุด เนื่องจากมีผลต่อกำลังซื้อและประสิทธิภาพในการทำงานโดยตรง ทั้งนี้ประเทศไทยจึงเป็นหนึ่งจุดหมายปลายทางที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวกลุ่ม Digital Nomad เป็นอย่างมาก สะท้อนจากการที่กรุงเทพฯ ติดอันดับ 2 ของการจัดอันดับสถานที่ทำงานที่ดีที่สุดสำหรับชาว Digital Nomad ในปี 2566 ของ ETHRWorld รองจากเมืองลิสบอน ประเทศโปรตุเกส ขณะที่ผลการจัดอันดับเมืองที่ดีสุดในเอเชียสำหรับชาว Digital Nomad ของ nomadlist.com พบว่า ประเทศไทยติดอันดับ Top 10 ถึง 3 แห่ง ได้แก่ 1. เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี 2. กรุงเทพฯ 3. จ.เชียงใหม่ ซึ่งนับว่าเป็นสัญญาณที่ดีของการท่องเที่ยวไทย”
ยกระดับเครือข่ายทรู 5G ให้ทันสมัย ได้ผลลัพธ์ ความเร็วสูงสุดเพิ่มมากขึ้นเป็น 2 เท่า
การันตีจากสถาบันทดสอบคุณภาพระดับโลก nPerf ฝรั่งเศสกับรางวัลเครือข่ายที่ดีที่สุด 8 ปีซ้อน
ภายหลังการรวมกัน ทำให้มีเสาสัญญาณเพิ่มมากขึ้น คลื่นความถี่เพิ่มมากขึ้น ความครอบคลุมกว้างไกลยิ่งขึ้น ทีมงานวิศวกรผู้เชี่ยวชาญทั้งในประเทศและระดับโลกที่ผ่านมากขึ้น รวมทั้งการนำ AI เข้ามาเสริมศักยภาพเครือข่ายให้อัจฉริยะยิ่งขึ้น โดยเราได้มีการยกระดับเครือข่ายทรู 5G ให้ทันสมัย (Network Modernization) ทยอยอัปเกรดเสาสัญญาณทั่วประเทศมาตั้งแต่ปลายปี 2566 นำร่องไปแล้วหลายพื้นที่ทั่วประเทศไทย โดยเฉพาะเมืองที่เป็นสมาร์ท ซิตี้อย่าง เชียงใหม่ ขอนแก่น นครราชสีมา ภูเก็ต และสงขลา ตลอดจนโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) อีกด้วย ซึ่งได้ผลเป็นที่น่าพอใจมากคือคุณภาพสัญญาณและความเร็วสูงสุดในการใช้งานบนมือถือ ทั้ง 5G และ 4G เพิ่มมากขึ้นเป็น 2 เท่า ซึ่งจะเสริมศักยภาพการใช้งานเน็ตในทุกจุดท่องเที่ยวให้ได้รับประสบการณ์ระดับเวิลด์คลาสได้อย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ Machine Learning มาใช้ตรวจดูการใช้สัญญาณ ทำให้เรารู้ถึงปริมาณการใช้งานและความหนาแน่นในการใช้งานในแต่ละพื้นที่ โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยว หรือช่วงเทศกาลที่มีคนใช้งานเยอะ ทำให้แก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็วหากเกิดกรณีฉุกเฉิน
คิกออฟเชียงใหม่ เช็คสัญญาณทั่วไทย เช็คอินความสุขให้คนไทย เช็คสปีดเน็ตไม่สะดุด ชัวร์ทุกพื้นที่
นายชนัทย์ พัฒนพิฑูรย์ หัวหน้าฝ่ายการจัดการด้านแบรนด์ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “ด้วยความพร้อมด้านเครือข่ายคุณภาพของทรู จึงเป็นที่มาของแคมเปญ “ทรูทั่วไทย” ที่จะนำซีอีโอและคณะผู้บริหารเดินทางไป 4 ภาคทั่วประเทศตลอดทั้งปี 2567 เพื่อร่วมพิสูจน์สัญญาณทรู 5G เช็คสปีดเน็ตทุกพื้นที่ และยกระดับประสบการณ์ใช้งานอินเทอร์เน็ต ทั่วไทย ทั่วถึง ทุกคน ทุกพื้นที่ ทั้งในเมืองหลวง เมืองหลักและเมืองรอง โดยคิกออฟเชียงใหม่ที่แรก เน้นแลนด์มาร์ค และสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ ของจังหวัด เช่น ประตูท่าแพ วัดพระสิงห์ โป่งแยงจังเกิ้ลโคสเตอร์ซิปไลน์ สถานที่ท่องเที่ยวแนวแอดแวนเจอร์สุดฮิตที่ อ.ม่อนแจ่ม นอกจากนี้ เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าจะสัมผัสกับประสบการณ์ระดับเวิลด์คลาส พร้อมทั้งจัดเตรียมแพ็กเกจที่ดีที่สุดและได้รับความนิยมสูงจากพี่น้องชาวเหนือ”

ข่าวชิ้นนี้เผยแพร่โดย iChiangMaiPR.com
หมวดหมู่: ไอที - ยานยนต