ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ประชุมเพิ่มการลาดตระเวนพื้นที่เสี่ยงเกิดไฟไหม้ซ้ำซาก

นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เรียกประชุมคณะทำงานศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายคมสัน สุวรรณอัมพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม เพื่อประเมินสถานการณ์และปรับแผนการปฏิบัติ  ซึ่งช่วงหลายวันที่ผ่านมาเกิดเหตุไฟไหม้ในพื้นที่เดิมอยู่ซ้ำซาก ทำให้เกิดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 สูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในวงกว้าง โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอพร้าว รวมทั้งเหตุที่เกิดขึ้นบริเวณดอยสุเทพ ที่เกิดไฟไหม้ติดต่อกันมาหลายวัน จึงได้ประสานขอสนับสนุนจากกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า ในการจัดส่งเฮลิคอปเตอร์ MI 17 ขึ้นบินเพิ่มความชุ่มชื้นและไม่ให้เกิดไฟขึ้นซ้ำซาก ซึ่งจากการสำรวจในบริเวณพื้นที่ดังกล่าว พบว่าไฟดับสนิทแล้วทุกจุด

ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ได้เน้นการบูรณาการของหน่วยงานทุกภาคส่วน โดยเฉพาะในห้วงเดือนเมษายน ให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการเตรียมการวางแผนล่วงหน้า เพื่อให้ทันต่อเหตุการณ์มากยิ่งขึ้น ทั้งการเพิ่มกำลังการลาดตระเวน การดับไฟ รวมถึงให้สื่อสารทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนในกลุ่มชาติพันธุ์ ในเรื่องของการบริหารจัดการเชื้อเพลิงในช่วงเวลานั้นส่วนกำลังพลจะเน้นกำลังประจำถิ่นให้มากขึ้น โดยจะแบ่งชุดลาดตระเวนและชุดดับไฟแยกกัน แต่จะให้มีการสับเปลี่ยนหมุนเวียนกำลังเพื่อลดความเหนื่อยล้า พร้อมกันนี้ให้รายงานสถานการณ์ทุกวัน ทั้งการเกิดจุด Hot spot ค่าฝุ่นละออง PM 2.5 และการปฏิบัติงานที่สำคัญในห้วงที่ผ่านมา เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบถึงการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ด้วย

ด้าน นายคมสัน สุวรรณอัมพา กล่าวว่า จากการประชุมร่วมกับคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ได้เห็นแนวทางการปฏิบัติงาน ด้านบริหารจัดการเชื้อเพลิงของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งถือว่าประสบผลสำเร็จ โดยชาวบ้านในพื้นที่ได้ใช้เครื่องอัดใบไม้ แปรใบไม้กลายเป็นเงิน เพื่อให้มีรายได้กลับสู่พี่น้องประชาชนชุมชน รวมถึงเพื่อเป็นการลดการเผาที่ก่อให้เกิดไฟป่าและหมอกควันด้วย นอกจากนี้ เพื่อเป็นการดึงศักยภาพของทั้งชุดลาดตระเวน และชุดดับไฟป่า ให้เจ้าหน้าปฏิบัติงานทั้งสองชุดนี้ มีส่วนในการประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน ผู้ที่จะดำเนินการการเผาในพื้นที่เกษตร โดยให้กำหนดพื้นที่ที่จะทำการบริหารจัดการเชื้อเพลิงให้ชัดเจน โดยจะมีชุดลาดตระเวนเข้าไปประชาสัมพันธ์ในพื้นที่ และแจ้งมายังชุดลาดตระเวนประจำหมู่บ้าน เพื่อเข้าไปควบคุมการเผาในพื้นที่ โดยให้ระบุพื้นที่ให้ชัดเจน และแจ้งมายังชุดลาดตระเวนประจำหมู่บ้าน เพื่อทำการเข้าไปควบคุมการเผา อีกทั้งเพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับชาวบ้านในพื้นที่อีกด้วย

ข่าวชิ้นนี้เผยแพร่โดย iChiangMaiPR.com
หมวดหมู่: นโยบายการเมือง, สังคม, สิ่งแวดล้อม, สุขภาพ
คำค้น: , , , , ,