สถานกงสุลพบปะสื่อมวลชน

สถานกงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนเชียงใหม่ ร่วมกับสำนักประชาสัมพันธ์เขต 3 จัดงานพบปะสื่อมวลชน เพื่อฉลองความสำเร็จอันรุ่งโรจน์ครบรอบ 70 ปี แห่งการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้บรรยายเรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมของจีนและความร่วมมือระหว่างประเทศหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางโดยมี นายเหริน ยี่เซิง กงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำเชียงใหม่ พร้อมด้วย นางระพีพร มีสอาด ผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์เขต 3 เป็นประธานร่วมเปิดงาน ท่ามกลางสื่อมวลชนจาก 8 จังหวัดภาคเหนือมากมายที่มาร่วมงาน

ซึ่งงานนี้ นายเหริน ยี่เซง กงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำเชียงใหม่ ได้บรรยายสรุปถึงการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมของจีนในห้วง 70 ปี และความเจริญรุ่งเรืองนับแต่ปี ค.ศ.1978 หรือ 40 ปีที่จีนมีนโยบายเปิดประเทศมาถึงบัดนี้มากมาย โดยเฉพาะนโยบายของประธานาธิบดีสี จิ้นผิงหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางที่มีความร่วมมือจากนานาประเทศถึง 150 ประเทศ

นายเหริน ยี่เซิง กล่าวว่า นับแต่ปี ค.ศ.1978 หรือ 40 ปีที่จีนมีนโยบายเปิดประเทศ ทำให้ชาวจีนมีฐานะดีขึ้น และมีความสุข เพราะนโยบาย 2 ด้านคือ ปฏิรูปภายในประเทศ และเปิดประเทศสู่สากล จะเห็นว่าในอดีตชาวจีน 800 ล้านคนเป็นชาวนา สมัยนั้นที่ดินที่อยู่อาศัยถือเป็นทรัพย์สินสาธารณะ ทำให้ประชาชนไม่กระตือรือร้นในการผลิต สภาพความยากจนมีทั่วไป ถึงจะปลูกข้าวก็กินไม่อิ่ม คนอาศัยอยู่บ้านดิน ฯลฯ รัฐบาลจึงหันมาส่งเสริมชาวนาให้เร่งผลผลิตทั้งข้าว และอาหาร ตลอดถึงเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างเต็มกำลัง ใช้เครื่องจักรเข้ามา อนุญาตให้นักลงทุนเข้ามา ทำให้การผลิตดีขึ้นกว่าเดิม ชาวนานอกเมืองก็พยายามเข้ามาหากินในเมือง ขณะที่รัฐบาลก็หันไปพัฒนาชนบท สร้างรถไฟความเร็วสูงออกไปนอกเมือง เกิดการจ้างงาน และพัฒนาชนบทมากมาย คนชนบทก็กลับไปบ้านเกิด อากาศก็ดี และสาธารณูปโภคต่างๆเจริญขึ้น “ตั้งแต่ปฏิรูปประเทศมา ปรับระบบการเมืองทั้งหมด การพัฒนาเข้าถึงทุกมณฑล และที่เป็นผลสำเร็จอย่างสูงคือการเปิดเขตเศรษฐกิจพิเศษในปี 1979 ที่เมืองเสินเจิ้น จากหมู่บ้านประมงเล็กๆ กลายมาเป็น 1 ใน 4 เมืองใหญ่ที่เจริญที่สุดของจีนนับแต่ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และกวางโจว”

“นับแต่ปี ค.ศ.1978-2018 จีดีพี. (ผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ)เพิ่มเป็น 225 เท่า (พร้อมกับโชว์ภาพอดีต-ปัจจุบัน)เซี่ยงไฮ้ในอดีตที่เป็นทุ่งนา วันนี้มีแต่ตึกระฟ้า หอสูงที่สุดเมื่อปี 2016 เคยพาคณะสื่อมวลชนเชียงใหม่ไปชมนั้นตกรุ่นไปแล้ว เพราะมีหอคอยใหม่สูงกว่าเดิม จากนโยบายของรัฐจะให้ประชาชนพ้นจากความยากจน 770 ล้านคน มาถึงปีที่แล้ว 2018 ลดลงเหลือแค่ 16.6 ล้านคน และจะทำให้เหลือ 6 ล้านคน ซึ่งในปีหน้าก็จะหมดไป สังคมก็จะอยู่ดีมีสุขภาวะ นายเหริน ยี่เซิง กล่าวถึงนโยบายที่ 3 ของจีน คือการพัฒนาการผลิต และแข่งขัน เมื่อเศรษฐกิจจีนเติบโตมาก แต่จะทำอย่างไรให้เหมาะสมกับสถานการณ์ของชาวจีน จากการลบความขัดแย้ง และความเหลื่อมล้ำทางสังคมอันเนื่องจากความยากจนได้ ทำให้ปัญหาความขัดแย้งในธิเบตก็จบลง ความแตกต่างระหว่างเมืองกับชนบทลดลง ซึ่งเป็นผลจากการปฏิรูปอย่างลึกซึ้ง ซึ่งจีนยังจะเดินหน้าต่อตามแผนระยะ 20 ปีสองช่วง 2022-2049 จะพัฒนาประเทศไปสู่การอยู่ดีกินดี มีสันติสุข มีชีวิตที่ดีขึ้นใน 20 ปีข้างหน้าแน่นอน” นายเหริน ยี่เซง กล่าวเพิ่มเติม

ข่าวชิ้นนี้เผยแพร่โดย iChiangMaiPR.com
หมวดหมู่: การค้า - การลงทุน, การตลาด, นโยบายการเมือง, สังคม, เศรษฐกิจ