ม.ศรีปทุม จัดพิธีประสาทปริญญา ประจำปี 2560

รองศาสตราจารย์ ดร.ครรชิต มาลัยวงศ์ ราชบัณฑิต เป็นประธานในพิธีประสาทปริญญา ประจำปีการศึกษา 2561 ณ ห้องบัวหลวงแกรนด์รูม อาคาร ดร.สุข พุคยาภรณ์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม กทม.(บางเขน)

รองศาสตราจารย์ ดร.ครรชิต มาลัยวงศ์ ราชบัณฑิต และนายกสภามหาวิทยาลัยศรีปทุม เป็นประธานในพิธีประสาทปริญญา แก่ผู้สำเร็จการศึกษา มหาวิทยาลัยศรีปทุม ประจำปีการศึกษา 2560 (เป็นวันแรก)เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา โดยมี ดร.รัชนีพร พุคยาภรณ์ พุกกะมาน อธิการบดีมหาวิทยาลัยศรีปทุม กล่าวรายงานกิจการของมหาวิทยาลัย และมีบัณฑิตเข้ารับปริญญาบัตร รวม 6 คณะ ได้แก่ วิทยาลัยนานาชาติ คณะดิจิทัลมีเดีย คณะนิติศาสตร์ วิทยาลัยโลจิสติกส์และซัพพลายเชน คณะบัญชี และคณะศิลปศาสตร์ ณ ห้องบัวหลวงแกรนด์รูม อาคาร ดร.สุข พุคยาภรณ์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม กทม.(บางเขน)

รองศาสตราจารย์.ดร.ครรชิต มาลัยวงศ์ ราชบัณฑิต กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีและชื่นชมต่อบัณฑิตทุกท่านที่ได้สำเร็จการศึกษาในปีนี้. การสำเร็จการศึกษาของบัณฑิตแต่ละท่านนั้นไม่ได้เป็นเพียงความยินดีของตัวท่านและครอบครัวเท่านั้น แต่ยังเป็นความยินดีของมหาวิทยาลัยศรีปทุม คณาจารย์ และ บุคลากรทุกคนของมหาวิทยาลัยด้วย. การสำเร็จการศึกษาของบัณฑิตแต่ละท่าน แสดงถึงการบรรลุพันธกิจและวัตถุประสงค์ที่มหาวิทยาลัยได้กำหนดไว้. อย่างไรก็ตาม ความชื่นชมยินดีในวันนี้ เป็นเพียงขั้นต้นเท่านั้น คณาจารย์และผู้บริหารของมหาวิทยาลัยจะมีความชื่นชมยินดีมากขึ้น ถ้าหากบัณฑิตของศรีปทุมทุกท่านได้ประสบความสำเร็จในชีวิตและหน้าที่การงานเป็นอย่างดียิ่งในอนาคตด้วย.
การที่พวกท่านจะประสบความสำเร็จในอนาคตได้นั้น จำเป็นที่ท่านจะต้องตระหนักว่าท่านจะต้องใช้ทักษะและความรู้ความสามารถที่คณาจารย์พร่ำสอนท่านมาตลอดหลักสูตร. ทักษะและความรู้ความสามารถเหล่านี้ อาจจะไม่ประจักษ์ชัดขณะที่ท่านกำลังศึกษาอยู่ เพราะท่านอาจจะกังวลแต่เนื้อหาความรู้และการสอบ. ด้วยเหตุนี้ ก่อนที่พวกเราจะแยกย้ายกันไปหลังงานรับปริญญาในวันนี้ ผมจึงขอทบทวนให้ท่านทราบถึงแนวปฏิบัติที่คณาจารย์ได้สอดแทรกไว้ในคำสอนต่างๆ อีกครั้งหนึ่ง.

ทักษะประการแรกก็คือ ความกล้าที่จะตั้งคำถาม อาจารย์ทุกท่านพยายามให้ท่านถามในชั้น แต่นักศึกษาส่วนใหญ่ไม่กล้าตั้งคำถามทั้งๆที่ตนเองไม่รู้เรื่องนั้น. แต่ในการทำงานนั้น ถ้าหากท่านไม่ถาม ท่านจะไม่สามารถทำงานให้ตรงกับที่ลูกค้าหรือหัวหน้าของท่านต้องการได้. ดังนั้น หลังจากนี้ไม่ว่าท่านจะทำงานอะไร ต้องฝึกตั้งคำถามกับตนเองเกี่ยวกับงานนั้นตลอดเวลา. เมื่อท่านตั้งคำถามแล้ว ตอบไม่ได้ ท่านก็จะต้องรีบหาคำตอบนั้นโดยเร็ว.

ประการถัดมาคือ ความขยัน. ในการทำงานของผม นั้นผมพบว่า ผู้ปฏิบัติงานจำนวนมาก ไม่รู้จักหน่วยงานที่ตนเองสังกัดว่า มีพันธกิจอะไร, ไม่เคยรู้ว่าหน้าที่ของตนเองจะต้องทำอะไร? ทำอย่างไร? ทำไปเพื่ออะไร? ทำแบบไหนถูก? ทำแบบไหนผิด. ความสำเร็จในอนาคตของท่าน อยู่ที่ท่านจะต้องพัฒนาความขยันในการหาความรู้เกี่ยวกับหน่วยงานและหน้าที่การงานของตนเองให้มากขึ้น

ประการที่สามก็คือ ความสามารถในการใคร่ครวญพิจารณาเรื่องต่างๆที่ท่านรับผิดชอบอยู่โดยใช้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน. ทุกวันนี้ท่านได้รับข้อมูลข่าวสารมากมายผ่านทางไลน์ เรื่องที่ได้รับนั้นมีทั้งที่จริงและไม่จริง มีทั้งข่าวสารที่เป็นประโยชน์และเป็นเรื่องหลอกลวง หากท่านนำเรื่องที่ได้รับไปใช้ตัดสินใจโดยไม่ใคร่ครวญ ท่านก็อาจจะเกิดปัญหาได้. ดังนั้น ในการอ่านและส่งต่อข้อความในไลน์ ขอให้ท่านใคร่ครวญให้ดี เพื่อที่ท่านเองจะได้ไม่กระทำผิดกฎหมาย.
ประการสุดท้ายก็คือ ความสวยงาม. วันนี้บัณฑิตทุกท่านยิ้มแย้มแจ่มใสและแต่งกายมาอย่างสวยงาม เพราะเป็นวันพิเศษของท่าน. ผมขอเน้นว่า วันนี้ท่านแต่งตัวมาสวยงามได้ก็เพราะท่านมีความรู้และสอบผ่านในสาขาวิชาของท่าน. แต่ท่านคงไม่ได้ตระหนักว่า วิชาการทุกด้านมีความสวยงามที่ลึกซึ้ง เป็นความสวยงามของทฤษฎี, ของความจริง, ของการนำทฤษฏีและหลักวิชาไปใช้, ของผลงานที่เกิดขึ้นทั้งในตัวผลงานและที่เป็นผลให้เกิดแก่โลก. ผมขอแนะนำว่า… ไม่ว่าท่านจะทำงานอะไร ให้ตั้งปณิธานว่า ผลงานนั้นจะต้องสวยงาม ไม่ผิดพลาด และเป็นประโยชน์ ทั้งในด้านเนื้อหาและรูปแบบ. ถ้าท่านเป็นนักบัญชี ผลงานคือบัญชีที่ท่านทำจะต้องทั้งถูกต้องและสวยงามเรียบร้อย, ถ้าท่านเป็นนิติกร ท่านจะต้องร่างเอกสารสัญญาหรือกฎหมายที่ถูกต้องสวยงามทั้งอรรถะและพยัญชนะ, ไม่ว่าท่านจะทำงานอาชีพใด ขอให้ผลงานของท่านสวยงามและเป็นที่น่าชื่นชมของผู้ที่ใช้ผลงานนั้น.

ข่าวชิ้นนี้เผยแพร่โดย iChiangMaiPR.com
หมวดหมู่: การศึกษา
คำค้น: