อบจ เชียงใหม่ ร่วมกันจัดงาน “วันท้องถิ่นไทย” 2561 เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของ รัชกาลที่ 5 ทรงยกฐานะตำบลท่าฉลอม ขึ้นเป็นสุขาภิบาลท่าฉลอม

องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกันจัดงาน “วันท้องถิ่นไทย” ประจำปี 2561 เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่ทรงยกฐานะตำบลท่าฉลอม ขึ้นเป็นสุขาภิบาลท่าฉลอม ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการกระจายอำนาจการปกครองให้แก่ประชาชนอย่างแท้จริง

เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2561 เทศบาลเมืองแม่เหียะ อำเภอเมืองเชียงใหม่ นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานวางพานพุ่มดอกไม้สดถวายเครื่องราชสักการะพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และกล่าวคำถวายราชสดุดี รำลึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงโปรดเกล้า ให้ยกฐานะตำบลท่าฉลอมขึ้นเป็นสุขาภิบาลท่าฉลอม จังหวัดสมุทรสาคร ถือกำเนิดของการปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งแรกของประเทศเมื่อวันที่ 18 มี.ค.2448 ถือเป็นต้นแบบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการกระจายอำนาจสู่ประชาชนให้ได้มีส่วนร่วมอย่างแท้จริง และเป็นการวางรากฐานการปกครองท้องถิ่นที่สำคัญอันนำไปสู่การปกครองระบอบประชาธิปไตย โดยสอดคล้องกับแนวนโยบายของรัฐบาลในการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีความเข้มแข็ง เป็นกลไกในการพัฒนาประเทศได้อย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ ประเทศไทยมีองค์ปกครองส่วนท้องถิ่นกว่า 7,500 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่ทั้งประเทศ และในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) มีจำนวน 210 แห่ง ประกอบด้วย องค์การบริหารส่วนจังหวัด (องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่) 1 แห่ง เทศบาลนคร 1 แห่ง (เทศบาลนครเชียงใหม่) เทศบาลเมือง 4 แห่ง เทศบาลตำบล 116 แห่ง และองค์การบริหารส่วนตำบล 89 แห่ง โดยมีผู้บริหาร สมาชิกสภา ข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้างส่วนท้องถิ่น และประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง

นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ยังได้อ่านสารเนื่องในโอกาสวันท้องถิ่นไทยประจำปี 2561 ของพลเอก อนุพงศ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีความว่า ในนามของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย ขอขอบคุณผู้บริหาร สมาชิกสภา ข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกท่าน ที่ร่วมแรงร่วมใจปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง สามารถผลักดันนโยบายของรัฐบาลไปสู่การปฏิบัติจนเกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรมนานัปการ ขอให้ทุกท่านร่วมกันขับเคลื่อนและสานต่อนโยบายต่างๆต่อไป เพื่อก้าวสู่ประเทศไทย 4.0 อย่างมั่นคง สร้างความผาสุกให้กับพี่น้องประชาชน โดยมีข้าราชการ ผู้บริหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นกลไกสำคัญในการช่วยขับเคลื่อนการทำงานของภาครัฐ ซึ่งจะต้องปรับตัวให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาตนเองต่อเนื่อง สร้างการมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการร่วมกับทุกภาคส่วน และพัฒนาการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข รวมทั้งร่วมกันส่งเสริมการทำงานให้บรรลุผลสำเร็จไปสู่เป้าหมายเดียวกันในทุกภาคส่วน โดยรูปแบบเครือข่าย “ประชารัฐ” มีการสร้างสรรค์และใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี มาสนับสนุนให้บรรลุเป้าหมายของการพัฒนาประเทศ สู่ประเทศไทยที่มีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน เป็นสังคมปลอดทุจริตคอร์รัปชั่น ยึดมั่นในความซื่อสัตย์ ซื่อตรง โปร่งใส โดยสามารถตอบสนองความต้องการและแก้ไขปัญหาของประชาชนด้วยการบริการที่รวมเร็ว ถูกต้อง มีธรรมาภิบาล โดยน้อมนำหลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในการพัฒนาตามแนวทางปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมุ่งสู่ความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน

ดังนั้น เพื่อให้การขับเคลื่อนและการพัฒนา ก่อให้เกิดผลประโยชน์แก่ชาติ เพื่อประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนา ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เราจะต้องร่วมมือกันดำเนินการให้บรรลุผลสำเร็จในด้านต่างๆ ให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นด้านการสร้างความมั่นคง การพัฒนาและเสริมศักยภาพคนหรือการสร้างโอกาส ความเสมอภาค และเท่าเทียมกันทางสังคม ทั้งหมดนั้นก็เพื่อเสริมสร้างความผาสุกให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ

ข่าวชิ้นนี้เผยแพร่โดย iChiangMaiPR.com
หมวดหมู่: นโยบายการเมือง, สังคม
คำค้น: , , , ,